ใบความรู้ที่ 1 ประเภทของหนังสือ
หนังสือสามารถแบ่งออกเป็น 6 ประเภท
1. สารคดี หนังสือสารคดี คือหนังสือที่ให้ความรู้ มีเนื้อหาสาระและความคิดเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน เนื้อหาสาขาวิชาของหนังสือสารคดี ได้แก่ สาขาวิชามนุษยศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสังคมศาสตร์
2. บันเทิงคดีเป็นหนังสือที่เขียนขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ซึ่งต้องการให้ความบันเทิงและความเพลิดเพลินแก่ผู้อ่านเป็นหลัก อาจสอดแทรกความรู้และความคิดต่างๆ ไว้ด้วย แบ่งเป็นประเภทต่างๆ ได้ดังนี้
2.1. นวนิยาย เป็นหนังสือที่ผู้เขียน เขียนขึ้นเพื่อให้เกิดความบันเทิงแก่ผู้อ่าน โดยไม่เน้นความเป็นจริงหรือเนื้อหาสาระ
2.2. เรื่องสั้น เป็นหนังสือที่ผู้เขียน เขียนขึ้นตามวัตถุประสงค์เช่นเดียวกับนวนิยาย แต่มีเนื้อหาน้อยกว่านวนิยาย มักรวมหลายเรื่อง อยู่ในเล่มเดียวกัน
2.3.หนังสือสำหรับเด็กและเยาวชน เป็นหนังสือที่จัดทำขึ้นสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่มีเนื้อหาง่ายๆ หรือ เป็นหนังสือ ภาพการ์ตูน หนังสือประเภทนี้จะให้ความรู้ คติสอนใจ และสนองความต้องการอยากรู้อยากเห็นของเด็ก
3. สิ่งพิมพ์ มีความหมายว่า “สิ่งที่พิมพ์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแผ่นกระดาษหรือวัตถุใดๆ ด้วยวิธีการต่างๆ อันเกิดเป็นชิ้นงานที่มีลักษณะเหมือน ต้นฉบับขึ้นหลายสำเนาในปริมาณมากเพื่อเป็นสิ่งที่ทำการติดต่อ หรือชักนำให้ผู้อื่นได้เห็นหรือทราบ ข้อความต่างๆ”
4. ตำรา ตำราเป็นผลงานวิชาการที่เรียบเรียงขึ้นอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมเนื้อหาวาระของวิชาหรือเป็นส่วนหนึ่งของวิชา หรือหลักสูตร ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการถ่ายทอดวิชาการ เนื้อหาสาระของตำราต้องมีความทันสมัย ผู้อ่านสามารถทำความเข้าใจในสาระของตำรานั้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องเข้าศึกษาในวิชานั้น รูปแบบเป็นเล่มประกอบด้วย คำนำ สารบัญ เนื้อเรื่อง การอธิบาย วิเคราะห์ สรุป การอ้างอิง บรรณานุกรม การอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่ทันสมัยและครบถ้วน สมบูรณ์ ดัชนีค้นคำ/ข้อความ การอธิบายสาระสำคัญมีความชัดเจน โดยอาจใช้รูปถ่าย แผนภาพ ตัวอย่าง กรณีศึกษา ประกอบจนผู้อ่านสามารถทำความเข้าใจในสาระนั้นได้โดยเบ็ดเสร็จ
5. วารสาร หมายถึง สิ่งพิมพ์เป็นเล่มกำหนดออกเป็นประจำในระยะสัปดาห์ ปักษ์ เดือน หรือรายปี มักจะมุ่งให้ความรู้เชิงวิชาการแก่ผู้อ่านเป็นส่วนรวม หรือเฉพาะกลุ่ม
วารสารเป็นสิ่งพิมพ์ที่คล้ายกับนิตยสาร วารสารเป็นสิ่งพิมพ์ที่ออกเป็นรายประจำ มีลักษณะและรูปเล่มคล้ายนิตยสาร แต่แตกต่างจากนิตยสารตรงที่เนื้อหาภายในเป็นด้านวิชาการมากกว่าด้านบันเทิง ใช้จำนวนสีและภาพประกอบน้อยกว่าการจัดทำวารสารมีขึ้นเพื่อสนองนโยบายและความต้องการของหน่วยงาน สมาคม องค์กร หรือสถาบันต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูล ความรู้ บทความทางวิชาการ ผลงานการวิจัย ความรู้ทางวิชาการ และความก้าวหน้าทางวิทยาการมากกว่าจัดทำเพื่อธุรกิจการค้าแบบนิตยสารและใช้เป็นเอกสารอ้างอิงทางวิชาการสำหรับรูปเล่มของวารสาร ไม่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับความหนาที่แน่นอน แต่ไม่ควรหนาหรือบางเกินไป หากเป็นวารสารขนาดมาตรฐานไม่ควรหนาต่ำกว่า 40 หน้า และไม่ควรหนาเกิน 100 หน้า ถ้าหากขนาด 16 ยก ก็ไม่ควรต่ำกว่า50 หน้า และไม่ควรเกิน 200 หน้า เพราะหากจำนวนหน้าน้อยหรือมากเกินไป ความสนใจของผู้อ่านจะลดน้อยลง
6. นิตยสาร หมายถึง สิ่งพิมพ์ที่ออกเป็นรายคาบ หรือรายประจำที่ไม่ใช่รายวัน มีการเย็บเล่มใช้ปกอ่อนกระดาษปกมักจะมีคุณภาพและความคงทนต่อการใช้งานมากกว่ากระดาษเนื้อในเนื้อหาภายในเล่มมีความหลากหลาย ให้ความรู้ทางวิชาการและบันเทิง ใช้สีสันและภาพประกอบเป็นจำนวนมาก มีโฆษณาภายในฉบับ การออกแบบจัดหน้านิตยสารจะใช้ความพิถีพิถันในการจัดทำมากกว่าสิ่งพิมพ์ประเภทอื่น โดยนิยมใช้สีสันและภาพประกอบเพื่อดึงดูดความสนใจ และเร้าอารมณ์ของผู้พบเห็นนิตยสารมีรายได้หลักจากการโฆษณาและการจัดจำหน่าย การจัดทำจะเน้นผลการค้าเป็นสำคัญ
(ที่มา https://sites.google.com/site/kanokporn571310250/ )